โดย BBC ได้รายงานว่า arm ยักษ์ใหญ่แห่งวงการได้ส่งจดหมายแจ้งเป็นการภายในว่า จะหยุดดำเนินธุรกิจกับหัวเว่ย ในทุกด้าน ตามคำสั่งของสหรัฐฯ ที่ขึ้นบัญชีดำหัวเว่ยไม่ให้บริษัทของสหรัฐฯ ดำเนินธุรกิจด้วย
ซึ่งแม้ว่าปัจจุบัน arm หรือ arm holding นั้นจะเป็นบริษัทที่มี Softbank จากประเทศญี่ปุ่นเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในกิจการก็ตาม แต่ในเอกสารแจ้งภายในของ arm ที่ได้แจ้งแก่พนักงานระบุข้อความว่า “US Origin technology” หรือเป็นการระงับในส่วนของที่เป็นเทคโนโลยีที่มีต้นกำเนิดจากสหรัฐฯ
การที่ Softbank ตัดสินใจซื้อ arm นั้นเนื่องด้วยส่วนแบ่งตลาดของ CPU บนมือถือเกือบ 95% นั้นเป็นของ arm เรียกได้ว่า มือถือแทบทุกค่ายใช้สถาปัตยกรรมของ CPU จาก arm แทบทั้งสิ้น เนื่องจากมีประสิทธิภาพสูง กินไฟน้อย นอกจาก arm เป็นบริษัทที่ขายสถาปัตยกรรมของ CPU เพียงอย่างเดียว ดังนั้นการผู้ที่ซื้อสถาปัตยกรรมของ arm ไป สามารถไปเลือกโรงงานผลิต วัสดุ อุปกรณ์ต่างๆ ได้เอง ทำให้สามารถจัดการต้นทุนได้ต่ำกว่า ในราคาที่ตนเองต้องการได้ เนื่องจากได้ซื้อ “พิมพ์เขียว” ของการสร้าง CPU จาก arm มาแล้วนั่นเอง
ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับหัวเว่ย
แน่นอนว่า หัวเว่ยเอง ก็เป็นหนึ่งในผู้ที่ซื้อสถาปัตยกรรมของ arm มาใช้ในสายพานการผลิตมือถือของหัวเว่ยเองด้วย ดังนั้นการถูกระงับการทำธุรกิจดังกล่าว ทำให้หัวเว่ยไม่สามารถนำ CPU ที่เป็นเทคโนโลยีของ arm มาใช้ได้ ซึ่ง CPU นั้นไม่ต่างอะไรกับเครื่องยนต์ของรถยนต์ ดังนั้นแม้ว่าหัวเว่ยจะสามารถผลิตรถยนต์ได้ แต่ไม่สามารถบรรจุเครื่องยนต์ลงไปในรถได้นั่นเอง ซึ่งปัจจุบันหัวเว่ยมี บริษัทผู้ผลิตอย่าง HiSilicon เป็นสายพานการผลิตชิปเป็นของตัวเอง แต่ HiSilicon ก็ยังคงใช้สถาปัตยกรรมของ arm
ต่างจากกรณีของกูเกิ้ลที่ระบบปฏิบัติการ Android นั้นเป็นรูปแบบของ Open Source อยู่ ที่ยังมีช่องทางเปิดให้สามารถนำมาพัฒนาใช้งานต่อได้